ประวัติ Morris

Last updated: 8 ก.พ. 2564  |  3592 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประวัติ Morris

Morris

   Morris ถูกสร้างขึ้นโดย บริษัท The Moridaira Guitar Company เมืองนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานมาก Mr.Toshio Moridaira หรือผู้ก่อตั้ง Morris เดิมทีเป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของ Fender และ Gibson ตั้งแต่ปี 1964 ทำให้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีเยี่ยม ถึงขนาดที่ว่าทาง Gibson ชวน Moridaira ไปเยี่ยมชมโรงงาน Gibson ใน Kalamazoo รัฐมิชิแกน การเดินทางครั้งนั้นทำให้ Moridaira ได้ฉายาใหม่จากพนักงานคนหนึ่งในโรงงานของ Gibson ว่า Mori จนกระทั่งในปี 1967 เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทกีตาร์ของตนเองขึ้นชื่อว่า Morris ที่ได้ฉายาที่พนักงานคนนั้นตั้งให้เป็นแรงบันดาลใจ

   Morris ได้เริ่มผลิตกีตาร์ของตัวเองขึ้น โดยเริ่มจากการผลิตแบบจำลอง Dreadnought และ Small Jumbo ซึ่งเป็นแบบจำลอง Model ของ Martin และ Gibson จนถึงปัจจุบัน การผลิตหลักของเขาก็ยังเน้นไปในทางด้านของกีตาร์โปร่งคุณภาพเยี่ยมอยู่

   ปี 1974 ในที่สุด Morris ก็ได้เปิดตัวกีตาร์ของพวกเขาในงาน NAMM show ครั้งแรก

   ปี 1978 มอร์ริสได้เปิดตัว The Tornado line ซึ่งเป็นกีตาร์โปร่งไฟฟ้าตัวบางที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบ Ovation

   ต้นศตวรรษที่ 80 ได้มีการนำ Morris made in Japan เข้าไปจำหน่ายที่ สหรัฐอเมริกา พวกเขาเข้าร่วมในงาน Winter NAMM Show ประจำปีที่เมือง Anaheim รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยราคาค่าแรง และกระบวนการผลิตที่ถูกกว่าในสมัยนั้น ทำให้ Morris เริ่มมีชื่อเสียงในอเมริกามากขึ้น

   ต่อมา Morris ได้ทำการวิจัยตลาดอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกา โดยเข้าร่วมการแข่งขันกีตาร์และพบปะกับช่างไม้ชั้นเยี่ยมคนหนึ่ง และได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องพัฒนากีตาร์สำหรับผู้เล่นสไตล์นิ้วขึ้นอีก Morris จึงวิเคราะห์รูปแบบการเล่น Fingerstyle ต่างๆ และยังได้รับคำแนะนำที่มีค่ามากมายจากผู้เล่น Fingerstyle ชั้นนำเพื่อพัฒนากีตาร์รุ่นพิเศษนี้ เพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุด จึงได้คิดค้นวิธีการผลิตสองวิธี ได้แก่ “Luthier Made” ซึ่งสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญหนึ่งคนตั้งแต่ต้นจนจบ และ“ Hand Made” ซึ่งสร้างขึ้นโดยกลุ่มช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ซึ่งเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ในพื้นที่เฉพาะของกระบวนการผลิตกีตาร์

   ปี 2001 Morris เปิดตัวกีตาร์สไตล์ Fingerstyle ที่ยอดเยี่ยม ในราคาระดับกลาง และกีตาร์งานฝีมือแบบ Custom จนถึงปัจจุบัน Morris ก็ยังคงเป็นที่ยอมรับสำหรับศิลปิน Fingerstyle ระดับโลกอยู่ อีกทั้งยังได้เปิดตัว Morris S Series หรือ กีตาร์ในอุดมคติสำหรับผู้เล่น Fingerstyle

   เมื่อเปิดตัว S Series ในปี 2001 Morris ก็ได้ทำโมเดลไว้ให้เลือกถึง 8 รุ่นอีกด้วย
รวม 2 รูปแบบ (Grand Auditorium และ Classical Auditorium) การออกแบบ Cutaway 2 แบบ (Venetian และ Florentine) วัสดุชั้นนำ 2 ชิ้น (Spruce และ American Cedar) และ 2 ด้าน & วัสดุหลัง (Rosewood และ Mahogany)

   ในปี 2003 ได้เปิดตัว“ Round Back” และยังได้ปรับปรุงรูปแบบโครงสร้างกีตาร์ นับเป็นปัจจัยสำคัญหลักในการกำหนดทิศทาง คุณภาพของเสียง มีส่วนสำคัญ หลักๆ อยู่ 2 ประการ
1 ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับไม้หน้า และไม้หลัง/ข้าง
2 ช่วยกำหนดลักษณะ การสั่นสะท้อนของเสียงที่เปล่งออกมา
จากนั้นเราสามารถนำเสนอโมเดลที่ปรับปรุงแล้ว 12 แบบในแคตตาล็อก นอกจากนี้ยังได้เพิ่มรุ่น SS มาพร้อมกับตัวถังที่เล็กลงและรุ่น SJ แบบกึ่งจัมโบ้ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 16 รุ่นใน S Series

   ด้วยการที่ Moridaira เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ เขามักจะปรึกษาหารือกับนักดนตรีอาชีพ หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านการทำกีตาร์ เพื่อศึกษาข้อมูลกับกับไม้ และพัฒนาให้สินค้าของเขาให้ดียิ่งขึ้น จนก้าวข้ามขีดจำกัดไปได้อีกขึ้นอยู่เสมอ จนกระทั่งกีตาร์ที่มีตราสัญลักษณ์ Morris ถูกนำเขาสู่ประเทศอังกฤษ โดย Rose Morris และนอกจากนั้น Moridaira ยังผลิตกีตาร์ที่มีตราสัญลักษณ์สำหรับ Hohner เช่น Coronado, Futurama, HS Anderson , Lotus, Madcat และ Sakai


อ้างอิง
http://guitarcafethailand.com/index.php?str_search=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4+Morris&cmdSearch=+%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2+

http://morris-guitars.com/about-morris/

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้