ประวัติ Tokai

Last updated: 8 ก.พ. 2564  |  3902 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประวัติ Tokai

ประวัติ Tokai

Tokai ได้ก่อตั้งขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1947 โดยเริ่มจากการทำฮาร์โมนิกา และเปียโน จนพัฒนามาถึงการผลิต Melodica ในปี 1961

  ปี 1965 Tokai Gakki ได้เริ่มทำกีตาร์คลาคสิคตัวแรกขึ้น การผลิตกีตาร์คลาสสิคครั้งนี้ก็เป็นเหมือนจุดกำเนิดของกีตาร์ไฟฟ้าตัวแรกของ Tokai ในปี 1968 ซึ่งก็คือ Humming Bird ซึ่งเป็นกีตาร์ที่มีพื้นฐานมาจาก Mosrite Mark I และ II และนั่นทำให้มีการผลิต กีตาร์โปร่ง Humming Bird Custom Acoustic guitar ในปี 1970 ตามมาอีกด้วย

   ปี 1970 ร่วมมือกับ Martin ผลิตชิ้นส่วนส่งให้ไปประกอบที่อเมริกา และทำบอดี้ Martin Sigma ให้กับมาร์ติน ส่งขายอเมริกา ในปีเดียวกันนี้ก็เริ่มทำ Hummingbird ที่เป็นอคูสติกออกมา

   ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 1973 Tokai ได้ผลิตกีตาร์โปร่ง Conn line ภายใต้สัญญากับ C.G. Conn

  ต่อมาในปี 1972 Tokai หลังจากที่ได้ร่วมทุนกับ C.F. Martin & Company เพื่อจัดหาชิ้นส่วนกีตาร์โปร่งและสร้างกีตาร์ไฟฟ้า Martin's Sigma มาสักระยะหนึ่ง จนในปี 1973 ก็ได้เปิดตัวกีตาร์โปร่ง Cat's Eyes ของตัวเองซึ่งเป็นแบบจำลองของ C.F. กีตาร์ Martin รุ่นสูงๆ เสียงใกล้เคียงมาร์ตินที่สุด จนคนญี่ปุ่นถือว่าเป็นกีตาร์มาร์ตินของญี่ปุ่นจริงๆ

ประเด็นที่สำคัญจนทำให้ Tokai เริ่มมีชื่อเสียง เกิดขึ้นระหว่างปี 1977-1978

   Tokai ได้วางขายกีตาร์ที่เป็นเหมือนแบบจำลองของ Les Paul - Gibson ภายใต้ชื่อ "Les Paul Reborn" จนเกิดเป็นคดีฟ้องร้อง ทำให้มีผู้คนเริ่มได้ยินคดีความ "lawsuit guitars" การฟ้องร้องระหว่างบริษัทใหญ่อย่าง Gibson และ Tokai แต่ผู้คนกลับสนใจไปที่คุณภาพกีตาร์ที่เหนือกว่า Original อย่าง Gibson ของ Tokai มากกว่า ทั้งคุณภาพเนื้อไม้ที่สูงกว่า และการจัดการภายในที่เป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่า เรียกได้กว่า Tokai วิเคราะห์องค์ประกอบ และรายละเอียดต่างๆ ของ Les Paul มาพัฒนาเป็นเหนือกว่า Les Paul Reborn ทำให้ Tokai โด่งดังมากนับตั้งแต่นั้นมา

    หลังจากนั้น Tokai ได้วางขายกีตาร์ที่เป็นเหมือนแบบจำลองของ Fender Stratocaster ภายใต้ชื่อ "Spingy Sound" และในปี 1980 ก็เริ่มผลิตกีตาร์ที่เป็นเหมือนแบบจำลองของ Fender Telecaster โดยใช้ชื่อว่า "Breezy Sound" เหมือนที่เคยทำกับ Gibson และก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ Tokai ทำกีตาร์คุณภาพได้เหนือ Original อย่าง Fender อีกเช่นเคย

  หลังจากที่ได้อ่านประวัติทั้งหมด หลายๆ ท่านคงคิดว่ากีตาร์ทรงเหมือนๆกัน แบรนด์อื่นก็มีมากมายเกลื่อนไปหมด ทำไมไม่ฟ้อง เพราะว่า Tokai เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Fender และ Gibson อย่างมาก และด้วยราคาขายที่ต่ำกว่า แทบจะ 1 ใน 3 ของแบรนด์ที่เป็นเหมือนแบบจำลอง จึงเป็นที่ครองใจสำหรับผู้เริ่มต้นอย่างมาก ปัจจุบัน กีตาร์ "Lawsuit" Made in Japan กลายเป็นของสะสมที่หายาก เพราะสามารถลอกเลียนแบบได้ 100% ก่อนที่คดีความจะสิ้นสุดลง ปัจจุบันนี้กีตาร์ Tokai ไม่ได้เหมือนแบบจำลองสักทีเดียว แต่ยังคงคุณภาพมาตรฐานที่ดีเยี่ยมอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน


รายละเอียดรุ่นของ Tokai


LS 85F ปัจจุบัน LS136F
เป็นรุ่นยอดนิยม เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบแนวร็อค ให้เสียงที่ แน่น กลม อ้วน หนา เสียงแตกที่เป็นก้อน บอดี้ทำจากไม้มาฮอกานีที่ผ่านการอบ คอกีตาร์เป็นไม้มาฮอกกานีชิ้นเดียว Nut ทำจากกระดูกวัวเพื่อให้ได้ sustain ที่ดีและเสียงในแบบฉบับ vintage Made in Japan

LS 75 ปัจจุบัน LS136
เป็นรุ่นเริ่มต้นในตระกูล Love Rock ของ Tokai ด้วยโทนสี Gold Top ทำให้รุ่นนี้ได้รับความนิยมไม่แพ้กับรุ่นอื่นๆ เลย เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์การเล่นแบบ Blue Rock หรือคนที่ชื่นชอบเสียงแตก ด้วยโทนเสียงที่ อ้วน หนา บวกกับเสียงแตกที่ดุดัน สัญญาณแรงมากๆ ทำให้เค้น อารมณ์ สำเนียง ของคุณออกมาได้อย่างเต็มที่ บอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานีที่ผ่านการอบ คอกีตาร์เป็นไม้มะฮอกกานีชิ้นเดียว นัททำจากกระดูกวัวเพื่อให้ได้ sustain ที่ดีและเสียงในแบบฉบับ vintage , Made in Japan

LS 80
รุ่นนี้ความโดดเด่นอยู่ที่ไม้เมเปิ้ลท็อป 2 ชิ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสวยงามของเสี้ยนไม้เมเปิ้ลโดยเฉพาะ ส่วนในเรื่องของโทนเสียงก็ยังคงมีความคล้ายคลึงกับรุ่น LS 75 อยู่พอควร แต่ทีเด็ดมันอยู่ตรงที่ Tokai รุ่นนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ใน Collection ของมือกีตาร์ฮีโร่ ร็อคระดับโลกอย่างน้า Joe น่ะซิ แต่ถ้ามันไปอยู่ใน Collection ของคุณสักตัวก็ดูเท่ไม่เบาน่ะ สูตรการอบไม้ของ Tokai ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังคงเหมือนดั้งเดิมทุกอย่าง บอดี้ทำจากไม้มะฮอกกานีผ่านการอบไม้มาเป็นอย่างดี คอกีตาร์เป็นไม้มะฮอกกานีชิ้นเดียว นัททำจากกระดูกวัวเพื่อให้ได้ sustain ที่ดีและเสียงในแบบฉบับ vintage , Made in Japan

LS 90Q
เป็นรุ่นที่โชว์ความงดงามของไม้ QUILTED เมเปิ้ล ด้วยลายไม้ที่มีความคมชัด และ ลึก จึงเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ เพียงแค่คุณมองผ่านก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามและความประณีตของงาน เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบลายไม้เป็นพิเศษ ให้เสียงคอร์ดที่ กลม ใสสะอาด ส่วนหางเสียงของไลน์โซโล่นั้นให้โทนที่นุ่มนวลจับใจกันเลยทีเดียว แต่หากคุณชอบโทนเสียงที่ดุดันกว่านี้ อยากจะลองเปลี่ยน Pick- Up ดูก็ได้ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดเพื่อหาไอเดียอะไรบางอย่างในการเล่น แต่ให้คุณวางใจได้เลยเพราะว่าบอดี้ของ Tokai นั้นทำจากไม้มะฮอกานีที่ผ่านการอบมาเป็นอย่างดีแล้ว ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะของ Tokai ที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม คอกีตาร์เป็นไม้มะฮอกกานีชิ้นเดียวเพื่อให้ได้ sustain ที่ดีและเสียงในแบบฉบับ vintage , Made in Japan

LC 85 ปัจจุบัน LC136
เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากพอๆ กับรุ่นในตระกูล LS ของ Tokai “ Love Rock “ ด้วยลุคที่ดู Rocker สุดๆ บวกกับโทนเสียงที่หนาและหนักแน่นของไม้ Mahogany Top ฉาบด้วยสี Wine Red โชว์เสี้ยนไม้มะฮอกกานีอ่อนๆ เพิ่มความหรูหราอีกนิดด้วยอะไหล่ทอง ตกแต่งด้วยขอบ Binding ขนานคู่ไปกับลำตัวยาวไปจนถึง Headstock อีกจุดหนึ่งที่ทำให้รุ่น LC 85 นี้ดูโดดเด่นขึ้นมาอีกก็คือ ลายกราฟฟิกสุด Classic ตรง Headstock นั่นไงที่ทำให้แฟนๆ ของ Tokai ชื่นชอบ ,รุ่น LC 85 นี้ให้เสียงแตกที่ทรงพลังเป็นท่อนๆ ดูจะถูกใจกับมือกีตาร์ที่หลงใหลในการเล่น Riffs เป็นส่วนใหญ่ แต่หากจะลอง Lead ดูบ้างก็ลองใช้ปิ๊คอัพตัวหลังดู มันให้ sustain ที่ยาวเหยียด และจะทำให้อารมณ์ในการเล่นของคุณพุ่งขึ้นไปจนถึงขีดสุดเลยทีเดียว , Made in Japan


LC 85S ปัจจุบัน LC136S
เป็นรุ่นที่ถอดแบบมาจาก LC 85 “ Wine Red “ สุดเก๋า นั่นแหละ แต่จะมีโทนเสียงที่คมและใสกว่า จะแตกต่างกันตรงที่รุ่น LC 85Sใช้ไม้ Maple Top รายละเอียด spec ในส่วนอื่นๆ เหมือนกับรุ่น LC 85 ทุกอย่าง และมีให้เลือก 2 เฉียดสี โทนสีแรก คือ Snow White สีขาวเรียบเนียนตัดกับอะไหล่ทองได้อย่างลงตัว อีกสีได้แก่ Black สีดำมาดเข้มช่วยเร่งให้อะไหล่ทองเงางามดูโดดเด่นขึ้นมาทันที ส่วนจะชอบสีไหนหรือถูกใจกับสีอะไรก็แล้วแต่รสนิยมส่วนตัวแล้วล่ะ สิ่งหนึ่งที่วางใจได้เลย คือ คุณภาพงานของ Tokai ทุกรุ่นเนี้ยบทุกขั้นตอน และยังคงเสียงแบบฉบับ vintage ในสไตล์ Tokai ทุกอย่าง, Made in Japan

SG 75 ปัจจุบัน SG124
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับมือกีตาร์ที่ชอบกีตาร์น้ำหนักเบา ที่ให้เสียงไม่เบาตาม, ด้วยรูปทรงบอดี้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทำให้รุ่น SG 75 ได้รับความสนใจจากมือกีตาร์อย่างไม่เสื่อมคลาย ความกระชับของบอดี้ทำให้ควบคุมการเล่นได้ดีตั้งแต่เฟร็ตแรกไปจนถึงเฟร็ตสุดท้ายและบอดี้ที่เป็นไม้มะฮอกกานีล้วนทำให้เสียงที่ถูกขับออกมามีความหนา และ คม ซึ่งถ้าลองเล่นบลูส์ lick ซักหนึ่งลูก จะรู้ทันทีเลยว่าโน้ตที่ถูกเล่นออกมามันลึกและบาดใจขนาดไหน หรือถ้าอยากหาสำเนียงใหม่ๆ ในการเล่นก็ลองสวมสไลด์แก้วคอขวดดูแล้วไล่เลื้อยมันไปบนฟิงเกอบอร์ดจะพบว่าการควบคุมสไลด์นั้นราบเรียบมาก คาแร็กเตอร์ของรุ่น SG 75 อีกอย่างคือถ้าคุณปล่อยมันค้างไว้คอมันจะตกลงพื้นทันที หากคุณไม่ใช่นักร้องนำก็ไม่ต้องไปซีเรียสในเรื่องนี้ คอกีตาร์เป็นไม้มะฮอกกานีชิ้นเดียว นัททำจากกระดูกวัวเพื่อให้ได้ sustain ที่ดีและเสียงในแบบฉบับ vintage , Made in Japan


ES 110 ปัจจุบัน ES180
เป็นรุ่นคลาสสิกอีกรุ่นหนึ่งของ Tokai เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบแนว บลูส์ , แจ็ส , ร็อค และ ฟิวชั่น ทรง Semi-Hollow รุ่น ES 110 นี้ให้เสียงคลีนที่ กลม ใส ตรงช่อง “ f - hole “ นั้นจะให้โทนเสียงอะคูสติกติดออกมาด้วยเล็กน้อย ซึ่งถ้าคุณลองเบาโทนลงนิดหน่อยและเล่นริธึ่มสลับกับวอคกิ้งเบส หรือจะโชว์เดี่ยวโซโล่คอร์ดเมโลดี้ ก็จะให้ความไพเราะมากๆ ยิ่งถ้าคุณใช้นิ้วโป้งสะบัด Octave คู่แปด แล้วล่ะก็ซาวนด์ที่ได้นั้นจะนุ่มและลึกมากทีเดียว ส่วนเสียงโอเวอร์ไดฟ์ก็ดึงอารมณ์ได้ไม่แพ้กัน ลองดันโน้ตตัวที่ห้าในสเกลเพนทาโทนิคดู ซาวนด์ที่ได้นั้นมันเหนียวติดมือเลยทีเดียว ถ้าคุณรวมพลังทั้งหมดในการเล่นแล้วทิ้งมันลงไปที่โน้ต root บนสายหนึ่งพร้อมกับขยี้สายแล้วล่ะก็อารมณ์ของคุณจะระเบิดออกมาทันที บอดี้ทำจากไม้เมปิ้ลเพิ่มความโดดเด่นด้วยความนูนตรง Cut - Away คอกีตาร์เป็นไม้มะฮอกกานีชิ้นเดียว นัททำจากกระดูกวัวเพื่อให้ได้ sustain ที่ดีและเสียงในแบบฉบับ vintage , Made in Japan

ES 155
เป็นรุ่น Top - Lines ในตระกูล ของ Tokai ES ซึ่งปกติแล้วความประณีตของงาน Tokai ในรุ่นปกตินั้นก็ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว แต่ถ้ามันเป็นรุ่นท็อปแล้วล่ะก็ ความละเอียดของงานจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ไม้และวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ผลิตกีตาร์นั้นจะถูกอัฟเกรดสูงขึ้นไปอีก เพื่อให้ได้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกีตาร์ที่มีความละเอียดสูง ตัวบอดี้ลงแลคเกอร์ไนโตรซิลลูโรสทำให้ได้เสียงที่ เปิด คมชัด และสว่าง เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าคุณจะหิ้วมันไปแจมกับ วงบลูส์ วงแจ็ส มืออาชีพแถวบ้านแล้วล่ะก็ วางใจในเรื่องซาวนด์ได้เลย และใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับการสร้างไลน์โซโล่อันยอดเยี่ยมของคุณดีกว่า บอดี้ทำจากไม้เฟรมเมเปิ้ล คอกีตาร์เป็นไม้มะฮอกกานีชิ้นเดียว นัททำจากกระดูกวัวเพื่อให้ได้ sustain ที่ดีและเสียงในแบบฉบับ vintage ของ Tokai, Made in Japan

LS 130 SEB
SEB เป็นรุ่นที่มีความพิเศษ “เฉพาะตัวมากที่สุด“ ของ Tokai จุดที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ส่วนกลางของลำตัวบอดี้ใช้ไม้มะฮอกานีชิ้นเล็กสี่เหลี่ยมหลายๆ ชิ้นวางเรียงกัน ถูกปิดด้วยไม้ท็อปQUILTED เมเปิ้ล และไม้มะฮอกานีสองชิ้นปิดอยู่ด้านหลัง เท่านั้นยังไม่พอไม้มะฮอกกานีชิ้นเล็กสี่เหลี่ยมเหล่านั้นถูกวางเรียงสลับกันอีก ในทางทฤษฎีก็คือเสี้ยนไม้มะฮอกที่วางสลับกันนั้นเมื่อเกิดการสั่นสะเทือนเสียงก็จะวิ่งไปคนล่ะทิศทางตามเสี้ยนไม้ที่ถูกจัดวาง มวลเสียงก็จะวิ่งวนกันอยู่ด้านในและถูกขับออกทางปิ๊คอัพในที่สุด เสียงที่ได้นั้นจะแผด และมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบแนวร็อคเป็นชีวิตจิตใจ เสียงแตกยิ่งไม่ต้องพูดถึงมันพุ่ง สาดกระจายไปทั่วเวลาเล่นเพาเวอร์คอร์ด ซึ่งรุ่น LS 130 SEB ถูกจัดอยู่ในรุ่นท็อปของ Tokai เหมือนกันไม้และวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ผลิตกีตาร์ในรุ่นนี้ก็จะถูกคัดมาเป็นพิเศษ , Made in Japan

อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/T%C5%8Dkai_Gakki

https://tokaijapan.com/

https://www.facebook.com/theguitaravenue/posts/729565747114086/


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้